ท่องเที่ยวเมียนมาร์สักการ 3 ใน 5 สิ่งศักสิทธิ์ของประเทศพม่า

ทัวร์พม่า

สรรเสริญพระมหาเจดีย์ชเวดากอง พระบรมธาตุรายปีกำเนิดของปีม้า สักการพระบรมสารีริกธาตุมุเตา เยอะที่สุดของเมียนมาร์ ไหว้พระธาตุอินทร์ห้อย พระบรมธาตุรายปีกำเนิดของปีจอ
1. พระมหาเจดีย์ชเวดากอง
ถ้าเกิดจะเอ่ยถึงการไปท่องเที่ยวประเทศพม่าแล้ว อาจไม่มีผู้ใดไม่กล่าวถึง พระมหาเจดีย์ชเวดากอง เจดีย์ประจำเมืองประเทศพม่า ที่เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวเมียนมาร์ ทั้งยังคนต่างชาติที่มาท่องเที่ยวเมียนมาร์ต่างพากันเดินทางเพื่อมาสักกาะระ เป็นเจดีย์ที่แก่ดั้งเดิมกว่า 2,000 ปี เป็นที่ติดตั้งพระเส้นผมธาตุ 8 เส้น ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า รวมทั้งมีความโหฬารวิจิตรตระการตา โดยมากถึง 326 ฟุต กว้าง 1,355 ฟุต ซึ่งมีสาเหตุจากแรงเชื่อถือของชาวเมียนมาร์ ด้วยกันบริจาคสินทรัพย์ทรัพย์สิน ก่อเสริมเจดีย์ให้สูงใหญ่เพิ่มขึ้นเรื่อยมีทองคำแท้เปิดเผยเป็นแผ่นเรียงต่อกันหุ้มห่อตัวเจดีย์ไว้ โดยมีน้ำหนักถึง 1,100 กก.อย่างยิ่งจริงๆ ทำให้เจดีย์ที่นี้ มีสีทองบรอนซ์งาม ฉายแสงให้มองเห็นช่วงเวลากลางวันค่ำคืน ยิ่งไปกว่านี้ ด้านบนยอดเจดีย์ยังถูกตกแต่งไปด้วยอัญมณีอันเลอค่า ส่งแสงระยิบมองเห็นมาแต่ไกล ผู้คนที่มาท่องเที่ยวประเทศพม่า นอกเหนือจากที่จะมาสรรเสริญความสวยงามของพระมหาเจดีย์ชเวดากองแล้ว จำเป็นต้องไปนั่งสวดมนต์ไหว้พระตั้งจิตอธิษฐานและก็กราบขอพรต่อมหาเจดีย์ในลานประสบผลสำเร็จ หรือ ลานอธิษฐาน เพราะว่ามั่นใจว่าจะประสบผลสำเร็จจากที่ประสงค์ ต่อด้วยการรดน้ำพระทุกวันกำเนิด ที่ตั้งอยู่ทั้งยังแปดด้านรอบองค์เจดีย์ รวมทั้งมีพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์อีกหลายองค์ให้ได้ไหว้ขอพร
2. พระบรมสารีริกธาตุมุเตา หรือ พระมหาธาตุเจดีย์ชเวมอดอ
ได้ท่องเที่ยวเมียนมาร์ดูความสวยงามของเจดีย์ชเวดากองตามแบบฉบับของชาวประเทศพม่ากันแล้ว มุ่งสู่กรุงหงสาวดีดูความสวยในต้นแบบมอญกันบ้างที่ พระบรมสารีริกธาตุมุเตา หรือ พระมหาเจดีย์ชเวมอดอ เป็นเจดีย์โบราณอายุดั้งเดิมกว่า 2,000 ปี และก็ยังเป็นเจดีย์ที่สูงที่สุดในเมียนมาร์อีกด้วย ข้างในเจดีย์ใส่พระผมธาตุของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก่อสร้างมาตั้งแต่ยุคมอญเรืองอำนาจ ทำให้แบบที่มองเห็น เป็นสถาปัตยกรรมของชาวมอญทุกสิ่ง โดยมีฉัตรแบบเรียบองค์ระฆังของเจดีย์มีลักษณะแคบเรียว ข้างในเป็นก้อนอิฐกลวง โดยมีความหมายทางประวัติศาสตร์เป็น ใช้เป็นที่ทำพิธีเจาะพระหูของพระผู้เป็นเจ้าตะโกนชะเวตี้เมื่อครั้งท่านขึ้นครองราชย์ใหม่ๆถัดมาพระผู้เป็นเจ้าบุเรงท่วมได้สร้างฉัตรมอบเพิ่มอีกหลายชั้น พูดกันว่าก่อนที่จะท่านจะออกออกศึกเมื่อใด จะทรงมานมัสการพระมหาธาตุนี้ก่อนทุกหน แล้วก็สมเด็จพระกษัตริย์มหาราชเมื่อครั้งเคลื่อนพลมาตีหงสาวดี ก็ได้เสด็จมานมัสการในที่ที่นี้เช่นเดียวกัน ก่อนหน้าที่ผ่านมาได้กำเนิดแผ่นดินไหวหลายที แล้วก็ครั้งที่หนักที่สุด ทำให้ยอดพระมหาธาตุพังทลายลงมา ซึ่งก็ได้รับการบูรณะรวมทั้งนำเสนอซากของพระมหาธาตุองค์เดิมไว้ที่เดิมให้ผู้มาท่องเที่ยวเมียนมาร์ได้สักการคู่กันกับองค์ปัจจุบันนี้ ซึ่งนี่เองที่นับว่าเป็นจุดอธิษฐานศักดิ์สิทธิ์ โดยกรรมวิธีการอธิษฐาน ให้เอามือรวมทั้งหน้าผากแตะต้องไปที่พระบรมสารีริกธาตุองค์เดิมที่หัก และก็อธิษฐาน สิ่งที่ขอก็จะสำเร็จผล
3. พระบรมธาตุอินทร์ห้อย หรือ ไจหนโย
พระบรมสารีริกธาตุอินทร์ห้อย หรือ ไจคราวโย ในภาษามอญ มีความหมายว่า หินรูปหัวฤษี เป็นหินที่เชื่อถือ มีลักษณะเป็นหินสีทองคำขนาดใหญ่สูง 5.5 เมตร หนักกว่า 600 ตัน ตั้งอยู่บนผาชัน ถ้าเกิดมองดูด้วยสายตาแล้ว กว่าครึ่งของเนื้อหินนั้นยื่นออกมานอกผา แถมผายังลาดลงต่ำ ทำให้ดูเหมือนกับว่าหินวางอยู่อย่างล่อแหลม ราวกับจะร่วงลงมา แต่ตั้งสูงเด่นบนจุดที่สัมผัสกับพื้นดินเพียงแค่น้อยนิด ไม่กลัวต่อแรงดึงดูดหรือลมฝนแต่อย่างใด เช่นเดียวกันกับถูกพระอินทร์มาจับห้อยเอาไว้ ก็เลยได้เรียกกันว่า พระบรมธาตุอินทร์ห้อย ยิ่งไปกว่านี้ ยังมีเจดีย์สร้างไว้บนหิน ได้ถูกจำทดลองเป็นพระเกศาแก้วจุฬามณี ซึ่งเป็นพระบรมธาตุรายปีหน้าจอ ที่คนกำเนิดปีนี้จะต้องท่องเที่ยวเมียนมาร์ เพื่อไปนมัสการสักหนึ่งครั้งหนึ่งในชีวิต เช้าใจกันว่า ถ้าเกิดคนใดได้มานมัสการพระบรมสารีริกธาตุอินทร์ห้อยนี้ครบ 3 ครั้ง ผู้นั้นจะมีแม้กระนั้นความสำราญความรุ่งเรือง พร้อมกับขอสิ่งใดก็จะได้สมเช่นมุ่งมาดปรารถนาทุกสิ่งทุกอย่าง

ทัวร์พม่า

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ท่องเที่ยวเวียดนาม ดูธรรมชาติที่บริสุทธิ์สวย

7 จุดดูใบไม้เปลี่ยนสีในประเทศเกาหลีที่ต้องตามไปดู!